พอดีว่ามีโอกาสได้ดูหนังเรื่อง And when did you last see your father? คงไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทยกันแล้ว เพราะมันออกจะชัดขนาดนั้น หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่คงไม่มีโอกาสเข้าฉายในบ้านเราแน่นอน (ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน) โดยเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ถ่ายทอดให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “พ่อกับลูกชาย” ซึ่งในบทของพ่อนั้นแสดงโดย “จิม บอร์ดเบนท์” ( Jim Broadbent) ส่วนในบทของลูกชาย “เบลค” ตอนโตนั้นรับบทโดย “คอลิน เฟิร์ธ” ( Colin Firth) โดยการเดินเรื่องของหนังเรื่องนี้เป็นการถ่ายทอดความทรงจำในสมัยช่วงวัยรุ่นและวัยเด็กของลูกชายโดยในความทรงจำเหล่านั้นล้วนมีพ่อเข้ามาเกี่ยวด้วย ในเรื่องนี้ผู้ที่รับเป็น เบลค มอร์ริสัน ในช่วงวัยรุ่นก็คือ แมทธิว เบรด ( Matthew Beard) เมื่อเขารู้ว่าพ่อของเขาเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและเหลือเวลาอีกไม่นานที่จะอยู่บนโลกใบนี้ เบลคจึงตัดสินใจที่จะกลับไปอยู่กับพ่อเป็นครั้งสุดท้ายและนี่คือจุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ ในเรื่องนี้พ่อของเขา “อาร์เธอร์” มีอาชีพเป็นหมอ ส่วนเขา “เบลค” เป็นนักเขียน โดยในช่วงวัยเด็กเบลคอยู่กับพ่อตลอด แต่ดูเหมือนว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้บางครั้งดูเหมือน เบลคและพ่อจะไม่ค่อยเข้าใจกันสักเท่าไหร่ เบลคสงสัยในตัวของพ่อของเขาเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวแต่เขาก็ไม่เคยถาม เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อทำให้เขานั้นเขาสามารถรับรู้ได้ว่าพ่อรักเขาแต่ไม่ค่อยได้แสดงออก พ่อสอนเขาในทุกๆเรื่องแม้บางครั้งเบลคจะคิดว่ามันงี่เง่าก็ตาม จนเขาโตเป็นผู้ใหญ่ พ่อก็ยังเป็นห่วงเขาเหมือนเดิมและชอบทำอะไรที่เบลคคิดว่างี่เง่าเสมอ แต่มันก็คือความสุขของคนเป็นพ่อและเบลคก็เข้าใจ เพราะว่าเขาผูกพันกับพ่อมาก จนอาการป่วยของพ่อทรุดหนักลงเบลคคอยดูแลพ่อตลอดและนึกย้อยถึงวันเวลาเก่าๆที่เขากับพ่อมีความสุขร่วมกัน มันเล่าถึงภาพเหตุการณ์ต่างๆระหว่างพ่อกับลูกชาย ทำให้เบลคนึกถึงสิ่งที่พ่อเคยสอนเขา นึกถึงอดีตในช่วงที่เขาทั้งสุขและทุกข์โดยมีพ่ออยู่ในนั้นเสมอ เบลคเคยมีคำถามที่จะถามพ่อของเขาตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่แต่พ่อไม่ได้ตอบเขา แต่เบลคก็มารู้ตอนหลังคำตอบนั้นก็คือ “เบลคเป็นเหมือนโลกทั้งใบของพ่อเขา พ่อรักเบลคมากกว่าสิ่งใดในโลก” บอกได้คำเดียวเลยว่า น่าเสียดายมากที่คนไทยไม่มีโอกาสที่จะได้ดูหนังเรื่องนี้ ถ้าจะดูก็ต้องดีวีดีของต่างประเทศ เป็นหนังที่สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกชายได้ถึงจุดเลย หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องที่ 3 ในชีวิตที่ดูแล้วร้องไห้โดยไม่ต้องคิด ทั้งๆที่เป็นภาษาอังกฤษด้วยนะ แปลไม่ค่อยออกสักเท่าไหร่แต่อารมณ์ของหนังมันถึงขั้นจริงๆ ดูแล้วเราสามารถรับรู้ถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูกคนนึงได้เลย จิม บอร์ดเบนท์ เล่นได้เยี่ยมในบทที่พยายามจะสอนและให้สิ่งต่างๆกับลูกชาย ส่วนในบทเบลคตอนวัยรุ่น แมทธิว เบรด เล่นได้อย่างไม่มีข้อกังขาเลยสักนิด เขาสื่อถึงเบลคในช่วงวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี ทำให้เราเห็นภาพของพ่อที่ใช้ชีวิตส่วนมากอยู่กับลูกชายที่เป็นวัยรุ่นและต้องการให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ส่วน คอลิน เฟิร์ธ นั้นส่วนมากในเรื่องนี้จะเห็นในซีนอารมณ์ซะเป็นส่วนใหญ่ จะเห็นได้ว่าเบลคตอนโตนั้นก็ไม่ต่างไปจากช่วงวัยรุ่นเลยเขายังคงเป็นเด็กใยสายตาของพ่อเสมอและเขาพยายามจะกลับไปหาสิ่งเดิมๆในอดีต โดยเฉพาะซีนสุดท้ายของเรื่อง เขาเล่นได้เยี่ยมมาก! ดูซีนนี้แล้วอยากกลับไปหาพ่อเลยเพราะกลัวว่ามันจะไม่มีโอกาสและอาจจะสายเกินไป อยากให้ได้ดูกันสำหรับเรื่องนี้ And When Did You Last See Your Father? เป็นหนังที่คิดว่าคุ้มค่ามาก บางคนก็อาจจะบอกว่าไม่ดีก็แล้วแต่คนจะคิดแต่สำหรับเราแล้วเป็นหนังที่อาจจะไม่ใช่หนังกระแสของบ้านเราแต่คิดว่าทุกคนคงมีพ่อ นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าดู! คอลิน เฟิร์ธ ผู้แสดงหลักของเรื่องเคยให้สัมภาษณ์ว่า “นานๆทีจะมีหนังอย่างนี้ออกมาสักเรื่อง มันเป็นสิ่งที่ดีมากที่เราได้ถ่ายทอดความรักความผูกพันและเรื่องราวในครอบครัวระหว่างพ่อกับลูกชาย เพราะความรักไม่ได้มีเฉพาะคู่หนุ่มสาวเท่านั้น” ซึ่งในตัวของหนังเรื่องนี้ได้ถูกสร้างจากนิยายขายดีของ Blake Morrison ซึ่งถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นงานเขียนที่เขาเล่าถึงชีวิตของเขาเองแน่นอน.
หนังเรื่องนี้เข้าฉายตั้งแต่ปี 2007 เป็นของค่าย Sony Classic ส่วนดีวีดีจะวางในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2008 (นี่ดูใน www.amazon.com มา) ไปหามาดูซะไม่รู้เมืองไทยจะวางจำหน่ายรึป่าว? แล้วคุณจะรู้ว่าพ่อรักคุณขนาดไหน!
No comments:
Post a Comment